Fundamental Status
เป็นการนำเอาค่าต่างๆทางปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญๆ มาแสดงในรูปแบบ Ranking เปรียบเทียบกับ Set, Sector หรือเทียบกับ Industry
ประโยชน์
สามารถรู้ได้ทันทีว่าหุ้นตัวที่สนใจนั้นมีปัจจัยพื้นฐานดีอยู่ในลำดับที่เท่าใด เมื่อเทียบกับ Set, Sector หรือเทียบกับ Industry เพื่อง่ายต่อการวิเคราะห์แต่ละปัจจัย แต่เพื่อการเปรียบเทียบที่ถูกต้อง แนะนำควรเปรียบเทียบกันแบบ Sector หรือ Industry
วิธีการเรียกใช้งาน
กดที่ Fundamental –> Fundamental Status

ส่วนประกอบต่างๆของ Fundamental Status
1. ใช้สำหรับใส่ชื่อหุ้น และเลือกว่าจะให้เปรียบเทียบกับตลาดใด
2. แสดงชื่อหุ้น ราคาล่าสุด, ค่า PE, ค่า PBV, ค่า DPS
3. แสดงข้อมูลของบริษัทนั้นๆ ว่าดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับอะไร

4. แสดงข้อมูลปัจจัยพื้นฐานแบบ Ranking แสดงหัวข้อดังนี้
ปัจจัยด้านการต่อสู้ แข่งขันกับบริษัทอื่น
– Revenue Growth แสดงถึงการเติบโตของรายได้ (คิดเป็น %)
– Net Profit Growth แสดงถึงการเติบโตของกำไรสุทธิ (คิดเป็น %)
– %Dividend Yield แสดงถึงผลตอบแทนของเงินปันผล
– G-Score ยิ่งตัวเลขมาก แสดงว่าบริษัทนั้นๆเติบโตสูงและมีคุณภาพ
ปัจจัยด้านการป้องกัน ที่ส่งผลให้บริษัทแข็งแกร่ง
– D/E หนี้สินต่อทุน ยิ่งน้อยยิ่งดี
– ROE Last 4Q อัตราผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น 4 ไตรมาสล่าสุด (คิดเป็น %)
– Fix Asset Turnover อัตราหมุนเวียนของสินทรัพย์ถาวร (คิดเป็น %)
– Operating Cash Flow/Revenue กระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน (คิดเป็น %)
– F-Score แสดงถึงความแข็งแกร่งด้านงบการเงิน
ปัจจัยด้านผลตอบแทน
– Price Return 3 Years ราคาปรับตัวสูงขึ้นกี่ % ในรอบ 3 ปี
– Price Return 5 Years ราคาปรับตัวสูงขึ้นกี่ % ในรอบ 5 ปี
– Price Return 8 Years ราคาปรับตัวสูงขึ้นกี่ % ในรอบ 8 ปี
หมายเหตุ : หัวข้อที่เห็นอาจแตกต่างกันตาม Package ที่ใช้งาน

5. ตัวอักษรภาษาอังกฤษ แสดงเกรดของค่านั้นๆ ว่าเมื่อเทียบกันแล้วใน Set, Sector หรือเทียบกับ Industry เดียวกัน จากค่าพื้นฐานค่านี้จะได้เกรดอยู่ที่เท่าใด
เกรดที่ดีที่สุด คือ A+ และเกรดที่น้อยที่สุดคือ D
**อ้างอิงการแบ่งเกรด โดยการคำนวณแบบ Normalized T Score**

6. แสดงลำดับของหุ้นตัวนั้นเทียบกับ Set, Sector หรือเทียบกับ Industry เดียวกัน ว่าอยู่ในลำดับที่เท่าใดจากทั้งหมดในกลุ่มนั้น ซึ่งสามารถ Double click ที่ตัวเลข ระบบจะแสดง Ranking ขึ้นมาให้ทั้งหมด
